การเทรด Forex เป็นวิธีการสร้างรายได้เสริมที่มีความเสี่ยงสูง และต้องการความรู้ความเข้าใจในตลาดเงินเป็นอย่างมาก นักเทรดจำเป็นต้องศึกษากลยุทธ์การเทรด การวิเคราะห์กราฟ และคอยติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจ เป็นประจำ การเทรด Forex สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ซึ่งการเริ่มต้นควรใช้เงินลงทุนที่ไม่มาก เพื่อทดลองและเรียนรู้จากประสบการณ์ วันนี้เราจะมาแนะนำการสร้างรายได้เสริมจากการเทรด Forex และแนะนำขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่เลือกโบรกเกอร์จนถึงถอนเงิน
การเทรด Forex คืออะไร
การเทรด Forex (Foreign Exchange) คือการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในตลาดโลก โดยนักเทรดจะทำการซื้อสกุลเงินหนึ่ง และขายสกุลเงินอีกสกุลหนึ่งพร้อมกัน โดยหวังว่ามูลค่าของสกุลเงินที่ซื้อจะเพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินที่ขาย การเทรด Forex เกิดขึ้นในตลาดที่ไม่มีศูนย์กลาง ซึ่งเปิดให้ทำการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์ถึงศุกร์ ความผันผวนของค่าเงินทำให้การเทรด Forex มีความเสี่ยงสูง แต่ก็เป็นโอกาสในการทำกำไรสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ และมีการวางกลยุทธ์ที่ดี
ข้อดีของการเทรด Forex
- สภาพคล่องสูง : ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง ทำให้สามารถซื้อขายได้ง่ายและรวดเร็ว
- เปิดตลอด 24 ชั่วโมง : ตลาด Forex เปิดทำการ 24 ชั่วโมงต่อวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ทำให้นักเทรดสามารถเลือกเวลาซื้อขายได้ตามสะดวก
- เริ่มต้นด้วยเงินทุนต่ำ : หลายโบรกเกอร์อนุญาตให้เริ่มต้นเทรดด้วยเงินทุนที่ไม่สูงนัก ซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถทดลองเทรดได้โดยไม่ต้องลงทุนมาก
- ใช้เลเวอเรจ (Leverage) : Forex ให้โอกาสในการใช้เลเวอเรจ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรจากเงินทุนที่มีอยู่
- ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง : นักเทรดสามารถทำกำไรได้ ทั้งในตลาดที่มีทิศทางขึ้นหรือลง โดยใช้การซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) สกุลเงิน
ข้อเสียของการเทรด Forex
- ความเสี่ยงสูง : ความผันผวนของค่าเงิน ทำให้การเทรด Forex มีความเสี่ยงสูงในการสูญเสียเงินทุน
- ความซับซ้อนของตลาด : การเข้าใจตลาด Forex ต้องใช้เวลาในการศึกษา ทั้งด้านเศรษฐกิจ การวิเคราะห์กราฟ และปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงิน
- อิทธิพลจากปัจจัยภายนอก : ค่าเงินได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ หรือคาดเดาทิศทางของค่าเงินได้ยาก เช่น ข่าวสารทางเศรษฐกิจ เหตุการณ์สำคัญระดับโลก หรือการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน
- การใช้เลเวอเรจที่มีความเสี่ยง : แม้เลเวอเรจจะช่วยเพิ่มกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการขาดทุนได้เช่นกัน หากการเทรดไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง
- ความเครียดและแรงกดดัน : การเทรด Forex ต้องการการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเครียดและแรงกดดันในระหว่างการเทรดได้
การเลือกโบรกเกอร์ Forex
การเลือกโบรกเกอร์ Forex ที่เหมาะสม เป็นขั้นตอนสำคัญที่สามารถส่งผลต่อการเทรด และโอกาสในการทำกำไรของคุณ ควรทำการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ โดยมีขั้นตอนการพิจารณา ดังนี้
- ความน่าเชื่อถือและใบอนุญาต : ควรเลือกโบรกเกอร์ที่ได้รับการควบคุม และมีใบอนุญาตจากหน่วยงานทางการเงินที่น่าเชื่อถือ เช่น FCA (สหราชอาณาจักร), ASIC (ออสเตรเลีย) หรือ CySEC (ไซปรัส) เพื่อให้มั่นใจว่าโบรกเกอร์มีความน่าเชื่อถือและปฏิบัติตามกฎระเบียบ
- ค่าธรรมเนียมและค่าสเปรด : เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมในการเทรด ค่าสเปรด (Spread) และค่าคอมมิชชั่นของแต่ละโบรกเกอร์ โบรกเกอร์ที่มีค่าสเปรดต่ำจะช่วยลดต้นทุนในการเทรด และเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- เลเวอเรจและมาร์จิ้น : ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ให้เลเวอเรจในระดับที่เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยงของคุณ เลเวอเรจสูงอาจช่วยเพิ่มกำไรได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
- แพลตฟอร์มการเทรด : เลือกโบรกเกอร์ที่มีแพลตฟอร์มการเทรดที่เสถียรและใช้งานง่าย เช่น MetaTrader 4 หรือ 5 และแพลตฟอร์มที่มีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคและข่าวสารทางเศรษฐกิจที่ครบถ้วน
- การบริการลูกค้า : ตรวจสอบการให้บริการลูกค้าของโบรกเกอร์ ทั้งการสนับสนุนทางเทคนิค การตอบคำถาม และการช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน ควรเลือกโบรกเกอร์ที่มีการบริการลูกค้าที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- ความโปร่งใสในการฝากและถอนเงิน : เลือกโบรกเกอร์ที่มีขั้นตอนการฝากและถอนเงินที่สะดวก รวดเร็ว และไม่มีค่าธรรมเนียมแอบแฝง การฝากและถอนเงินควรทำได้ง่ายผ่านวิธีการที่หลากหลาย เช่น การโอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต หรือกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์
- รีวิวและความเห็นจากผู้ใช้ : อ่านรีวิวและความคิดเห็นจากนักเทรดที่เคยใช้บริการกับโบรกเกอร์นั้นๆ เพื่อรับทราบประสบการณ์จริงและข้อดีข้อเสียในการใช้งาน
- รายชื่อโบรกเกอร์ Forex แบ่งตามประเภทต่างๆ
แนะนำโบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ
การเลือกลงทุนกับโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ จะทำให้เงินลงทุนของคุณปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับความนิยม ได้แก่
XM
XM เป็นโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในวงการเทรด มีข้อดีหลายประการ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรด ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ
จุดเด่นของ XM
- การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ
- XM ได้รับการกำกับดูแลโดย Financial Services Commission (FSC) ภายใต้ Securities Industry Act 2021 (ใบอนุญาตเลขที่ 000261/4)
- และได้รับการดูแลโดย Trading Point of Financial Instruments Limited ซึ่งได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC) (ใบอนุญาตเลขที่ 120/10)
- แพลตฟอร์มการเทรด
- XM รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในหมู่นักเทรด Forex มีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน และสามารถใช้งานได้บนคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์มือถือ
- ประเภทบัญชีที่หลากหลาย
- XM มีประเภทบัญชีหลายรูปแบบให้เลือก ได้แก่ บัญชี Micro, บัญชี Standard, บัญชี Ultra Low Standard และบัญชี Shares ซึ่งมีค่าสเปรดและเลเวอเรจที่แตกต่างกันไป
- ค่าสเปรดและค่าธรรมเนียม
- XM มีค่าสเปรดที่แข่งขันได้ เช่น บัญชี Ultra Low Standard มีค่าสเปรดเพียง 0.8 pip นอกจากนี้ยังไม่มีค่าคอมมิชชั่นในการเทรด ยกเว้นบัญชี Shares
- การฝากและถอนเงิน
- XM มีระบบการฝากและถอนเงินที่สะดวก รวดเร็ว และรองรับวิธีการที่หลากหลาย เช่น การโอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต และกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากถอน
- การสนับสนุนลูกค้า
- XM มีบริการสนับสนุนลูกค้าที่ดี โดยมีทีมงานที่สามารถช่วยเหลือในหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย และสามารถติดต่อได้ผ่านหลายช่องทาง เช่น แชทสด อีเมล และโทรศัพท์
- โบนัสและโปรโมชั่น
- XM มักมีโปรโมชั่นและโบนัสสำหรับนักเทรด เช่น โบนัสเงินฝาก โบนัสไม่ต้องฝากเงิน ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มทุนในการเทรดได้
Exness
Exness เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ Forex ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงในวงการเทรดเช่นกัน ด้วยการให้บริการที่ครอบคลุมและมีความน่าเชื่อถือ
จุดเด่นของ Exness
- การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ
- Exness ได้รับการกำกับดูแลจากหน่วยงานทางการเงินที่มีชื่อเสียง ได้แก่ สำนักงานกำกับดูแลผู้ให้บริการทางการเงิน (FSA) ในประเทศเซเชลส์
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไซปรัส (CySEC)
- สำนักงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของประเทศอังกฤษ (FCA)
- สำนักงานกำกับดูแลการดำเนินงานของสถาบันการเงิน (FSCA) ในแอฟริกาใต้
- ธนาคารกลางกือราเซาและซินต์มาร์เติน (CBCS)
- คณะกรรมการบริการด้านการเงิน (FSC) ในหมู่เกาะบริติชเวอร์จิน
- คณะกรรมการบริการด้านการเงิน (FSC) ในมอริเชียส
- สำนักงานกำกับดูแลตลาดทุน (CMA) ในเคนยา
- คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์แห่งประเทศจอร์แดน (JSC)
- แพลตฟอร์มการเทรด
- Exness รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยม และเป็นที่รู้จักในวงการ Forex มีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ครบครัน และสามารถใช้งานได้บนอุปกรณ์ต่างๆ
- ประเภทบัญชีที่หลากหลาย
- Exness มีบัญชีหลายประเภทให้เลือก ได้แก่ บัญชี Standard, บัญชี Standard cent, บัญชี Raw Spread, บัญชี Zero และบัญชี Pro บัญชีเหล่านี้มีเงื่อนไขการเทรดที่แตกต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเทรดแต่ละคน
- ค่าสเปรดและค่าธรรมเนียม
- Exness มีค่าสเปรดที่ต่ำและแข่งขันได้ โดยเฉพาะบัญชี Raw Spread และ Zero ที่มีค่าสเปรดต่ำมากเพียง 0 pip ค่าคอมมิชชั่นก็มีอัตราที่เหมาะสมตามประเภทบัญชี
- เลเวอเรจที่ยืดหยุ่น
- Exness สามารถปรับเลเวอเรจได้สูงสุดถึง 1:2000 (ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและภูมิภาค) ช่วยให้นักเทรดสามารถปรับใช้เลเวอเรจตามความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยง
- การฝากและถอนเงินที่รวดเร็ว
- Exness มีระบบการฝากและถอนเงินที่รวดเร็วและสะดวก โดยไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการฝากและถอน
- การสนับสนุนลูกค้า
- Exness มีบริการสนับสนุนลูกค้าที่หลากหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย ซึ่งสามารถติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผ่านแชทสด อีเมล และโทรศัพท์
- ความโปร่งใส
- Exness มีความโปร่งใสในการให้ข้อมูลทางการเงิน โดยมีการแสดงข้อมูลการดำเนินงานต่างๆ บนเว็บไซต์ ทำให้นักเทรดสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย
FBS
FBS เป็นอีกหนึ่งโบรกเกอร์ Forex ที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในหลายประเทศ โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป FBS มีจุดเด่นหลายด้าน ที่ทำให้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักเทรด
จุดเด่นของ FBS
- การกำกับดูแลและความน่าเชื่อถือ
- FBS ได้รับการจดทะเบียน และได้รับใบอนุญาตโดย Financial Services Commission of Belize (FSC)
- FBS ได้รับการกำกับดูแลและได้รับใบอนุญาตจาก Cyprus Securities and Exchange Commission (CySEC)
- FBS ได้รับใบอนุญาตจาก Australian Securities and Investments Commission (ASIC)
- แพลตฟอร์มการเทรด
- FBS รองรับแพลตฟอร์ม MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในวงการ Forex มีเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคและความยืดหยุ่นในการใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ
- ประเภทบัญชีที่หลากหลาย
- FBS มีประเภทบัญชีที่หลากหลายให้เลือก ทั้งบัญชี Cent, บัญชี Micro, บัญชี Standard, บัญชี Zero Spread และบัญชี ECN ซึ่งแต่ละบัญชีมีเงื่อนไขการเทรดที่แตกต่างกันเพื่อให้เหมาะกับนักเทรดทุกระดับ
- โบนัสและโปรโมชั่น
- FBS มีโปรโมชั่นและโบนัสที่น่าสนใจสำหรับนักเทรด เช่น โบนัสไม่ต้องฝากเงิน โบนัสเงินฝาก และโปรแกรมคืนเงิน (Cashback) ที่ช่วยเพิ่มทุนในการเทรด
- เลเวอเรจสูง
- FBS เสนอเลเวอเรจที่สูงสุดถึง 1:3000 (ขึ้นอยู่กับประเภทบัญชีและภูมิภาค) ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดด้วยเงินทุนที่ต่ำและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
- ค่าสเปรดและค่าธรรมเนียม:
- FBS มีค่าสเปรดที่แข่งขันได้ โดยเฉพาะบัญชี Zero Spread ที่ไม่มีค่าสเปรด และมีค่าคอมมิชชั่นที่ชัดเจน บัญชีอื่นๆ มีค่าสเปรดที่แตกต่างกันไปตามประเภทบัญชี
- การฝากและถอนเงินที่สะดวก
- FBS มีระบบการฝากและถอนเงินที่รวดเร็วและสะดวก รองรับการทำธุรกรรมผ่านหลายวิธี เช่น การโอนผ่านธนาคาร บัตรเครดิต กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ และไม่มีค่าธรรมเนียมในการฝากถอน
- การสนับสนุนลูกค้า
- FBS มีบริการสนับสนุนลูกค้าที่ดี รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทย และสามารถติดต่อได้ผ่านแชทสด อีเมล และโทรศัพท์
ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ โบรกเกอร์ Forex ที่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่าง การเริ่มต้นเทรดจนถึงการถอนเงิน
นี่คือตัวอย่างการเทรด Forex โดยเริ่มต้นตั้งแต่เปิดบัญชี ไปจนถึงการถอนเงิน ซึ่งโบรกเกอร์ที่นำมาเป็นตัวอย่าง คือ โบรกเกอร์ XM มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
การเปิดบัญชีเทรด และทำกำไรในตลาด Forex
- เข้าหน้าเว็บไซต์ XM.com คลิกไปที่ “เปิดบัญชี” เพื่อเริ่มดำเนินการเปิดบัญชี
- ระบบจะพาคุณมาสู่หน้าลงทะเบียน ให้คุณเลือกและกรอกรายละเอียด 1-4 ดังต่อไป
-
- ประเทศที่พักอาศัย เลือก “ประเทศไทย”
- ใส่อีเมลล์ที่จะใช้ในการเปิดบัญชี
- ตั้งค่ารหัสผ่าน หรือ พาสเวิด ควรเป็นรหัสที่คาดเดาได้ยาก เพื่อความปลอดภัย
- จากนั้น กดปุ่ม “ลงทะเบียน” เพื่อดำเนินการต่อไป
- หลังจากลงทะเบียนขั้นตอนแรกเรียบร้อยแล้ว ระบบจะแจ้งให้คุณกลับไปเช็คอีเมลล์ที่ลงทะเบียนไว้ เพื่อกด “ยืนยันอีเมลล์”
- เมื่อเข้ามาที่อีเมลล์ คลิกไปที่ “ยืนยันอีเมลของท่าน” ระบบจะพาคุณไปยังพื้นที่ส่วนบุคคลของโบรกเกอร์
การยืนยันตัวตน
- เมื่อเข้ามาที่หน้าหลักของเว็บไซต์ ให้คุณทำการยืนยันตัวตนโดยกดไปที่ปุ่ม “ยืนยันตอนนี้” เพื่อทำการยืนยันตัวตน
- ระบบจะให้กรอกรายละเอียดโปรไฟล์ของคุณ โดยกรอกรายละเอียด 1-4 ดังต่อไปนี้
-
- ชื่อ
- นามสกุล
- วันเดือนปีเกิด (ให้เลือกโดยเริ่มจากเลือกปีที่เกิด เดือนที่เกิด และวันที่เกิด)
- ใส่เบอร์โทรศัพท์ จากนั้นคลิกไปที่ “ดำเนินการต่อไป”
- ระบบจะให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับที่อยู่ โดยให้กรอกรายละเอียด 5-8 ดังต่อไปนี้
-
- ใส่ที่อยู่ของคุณ (ตามบัตรประชาชน)
- ใส่อำเภอ
- ใส่บ้านเลขที่
- ใส่รหัสไปรษณีย์ จากนั้นคลิกไปที่ “เพิ่มข้อมูลทางการเงิน”
- ระบบจะตั้งคำถามว่า คุณเคยศึกษาฟอเร็กซ์ หรือซื้อขายตราสารต่างๆ อย่างน้อย 15 ครั้งหรือไม่ ตรงนี้เพื่อความง่ายให้คุณตอบคำถามตามรูปได้เลย ดังต่อไปนี้
-
- กด “ใช่”
- กด “ดำเนินการต่อไป”
- จากนั้นหน้านี้ให้กดปุ่ม “เริ่มการตรวจสอบยืนยัน”
- ระบบจะแจ้งให้คุณยอมรับนโยบายความเป็นส่วนตัว กดปุ่ม “ยืนยันฉัน” เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนถัดไป
- จากนั้น ระบบจะให้เลือกประเภทเอกสารสำหรับการตรวจสอบ กดเลือก “บัตรประชนชน”
- คลิกไปที่ “ที่อัพโหลด” โดยระบบจะให้เลือกอัพโหลดรูปบัตรเข้าในระบบ
- การยืนยันที่อยู่ คุณจะต้องอัพโหลดเอกสาร เช่น บิลค่าน้ำ ค่าไฟ อินเตอร์เน็ต หรือจะเป็นรายการเดินบัญชีสเตรทเมนต์ก็ได้ โดยเอกสารต่างๆ เหล่านี้จะต้องมีที่อยู่ที่ตรงตามบัตรประชาชนของคุณอย่างชันเจน จึงจะทำให้การยืนยันตัวตนสำเร็จ
- ขั้นตอนการดำเนินการ คือ คลิกตรงช่องสี่เหลี่ยมเส้นประสีแดง แล้วระบบจะเด้งหน้าอัพโหลดขึ้นมาให้เราเลือกอัพโหลดเอกสาร
- จากนั้น ให้ดำเนินการต่อตามรูป 1-3 ต่อไปนี้
-
- เลือกไฟล์หรือรูปที่ต้องการอัพโหลด
- กด “Open”
- กด “อัพโหลดเอกสารของคุณ”
วิธีการเทรด และทำกำไรในตลาด Forex
ขั้นตอนต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างการโหลดโปรแกรมที่จะเทรด และการเปิดออเดอร์เพื่อทำกำไรในตลาด โดยสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเทรดตามลิงค์ที่ให้ไว้ด้านล่างได้เลย ในตัวอย่างนี้จะเป็นการเทรดด้วยโปรแกรม MT5 กับโบรกเกอร์ XM เนื่องจากมีความเสถียรในการใช้งาน
- นี่คือลิงค์สำหรับ Download MT5 Broker XM https://www.xm.com/download/xmbz-mt5
- เริ่มต้นด้วยการเปิดโปรแกรม MT5 ขึ้นมา จะเจอหน้าจอแบบนี้ ให้คุณเลือกคู่เงินที่ต้องการจะเทรด เช่น EUR/USD, USD/JPY เป็นต้น
- นี่คือ ขั้นตอนการเปิดออเดอร์ ให้คุณกด “F9” ที่คีย์บอร์ด จะขึ้นหน้าตาแบบนี้ โดยคำสั่งจะมี 2 ส่วนด้วยกัน คือ
- Sell Oder : หากคุณเข้าสัญญาณ Sell กราฟต้อง”ลง”เท่านั้น คุณจึงจะทำกำไรได้
- Buy Oder : หากคุณเข้าสัญญาณ Buy กราฟต้อง”ขึ้น”เท่านั้น คุณจึงจะทำกำไรได้
- หากกราฟวิ่งสวนทางกับออเดอร์ที่เราเปิดไป จะทำให้เงินทุนของคุณติดลบ แปลว่า “ขาดทุน” นั่นเอง
- รูปนี้คือการเข้าออเดอร์โดยการเปิด Buy Oder แล้วกราฟวิ่งขึ้น เปิดไป 3 ไม้ กำไร+ที่ 219$ หากคุณพอใจกำไรแล้ว ก็สามารถปิดออเดอร์ได้ทันที
การถอนเงิน
- เมื่อคุณต้องการถอนเงิน ให้เข้าไปยังพื้นที่ส่วนบุคคลของหน้าเว็บไซต์ จากนั้นคลิกที่ลูกศรสีแดงชี้ด้านล่าง ที่คำว่า “ถอนเงิน” เพื่อเริ่มดำเนินการถอนเงิน
- จากนั้นให้เลือกวิธีการถอนเงิน โดยในตัวอย่างเลือก “Online Bank Transfer” คือการถอนเงินผ่านธนาคารในประเทศไทย
- จากนั้นให้คุณกรอกข้อมูลบัญชีที่ต้องการรับเงิน พร้อมทั้งยอดเงินที่ต้องการถอน ดังนี้
-
- เลือกธนาคาร
- ใส่หมายเลขบัญชีธนาคารที่ต้องการรับเงิน
- ใส่ยอดถอน (ในตัวอย่างถอนออก 100$)
- คลิกช่องสี่เหลี่ยมเพื่อยืนยัน
- คลิก”ร้องขอ” เพื่อส่งคำร้องขอถอนเงิน
- เมื่อดำเนินการครบทุกขั้นตอนแล้ว โดยปกติเงินจะเข้าบัญชีภายใน 1-2 ชม. แต่บางครั้งเงินก็เข้าบัญชีอย่างรวดเร็วภายใน 15 นาที
สรุป การสร้างรายได้เสริมจากการเทรด Forex
จะเห็นได้ว่า การสร้างรายได้จากการเทรด Forex ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น หากคุณต้องการประสบความสำเร็จจากการเทรด Forex คุณจะต้องศึกษาหาความรู้ให้มาก และฝึกวิเคราะห์กลยุทธ์ต่างๆ โดยสามารถศึกษาหาข้อมูลได้ทั้งจากช่องยูทูป ของคนไทยหรือจากต่างประเทศ และเรียนรู้จากเว็บไซต์ที่มีการสอน Forex ง่ายๆตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน อย่าลืมเริ่มต้นจากการฝึกเทรดด้วยบัญชี Demo จนเกิดความชำนาญก่อนนะ แล้วค่อยมาเทรดในบัญชีจริงเพื่อเริ่มต้นการเทรดอย่างจริงจัง นอกจากนี้คุณจะต้องคอยติดตามข่าวสารต่างๆ ที่มีผลต่อความผันผวนของคู่เงิน และที่สำคัญอย่าลืมที่จะเรียนรู้หรือติดตามเคล็ดลับการเทรดจากนักเทรดที่ประสบความสำเร็จมาก่อนด้วย ทีมงานขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนประสบความสำเร็จในตลาดด้วยนะ!